วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

กิจกรรมวันสงกรานต์

ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา (วันที่ 11-16 เมษายน 2554) ได้ทำกิจกรรมกับครอบครัวหลายอย่างค่ะ เอามาฝากพี่ๆเพื่อนๆที่เข้ามาเยื่ยมบล็อกค่ะ ก็เริ่มจากพี่สาวโทรมาบอกว่าจะรดน้ำ พ่อกับแม่ เพื่อรับพรเพื่อเป็นสิริมงคล และก็นัดเจอกันเนื่องจากไม่เจอกันนานอยู่กันคนละจังหวัด คนละหมู่บ้าน มาพร้อมกันในวันที่ 15 เมษายน เลยเตรียมกับข้าวกับปลาไว้รอรับพวกพี่ๆค่ะ มาดูบรรยากาศวันนั้นกันค่ะ

ตามประสาคนบ้านนอกนะ ถังน้ำพร้อมน้ำหอมใส่น้ำ เตรียมอาบน้ำขอพร

ได้เวลารดน้ำขอพรแล้วค่ะ

รับพรกันไป...

ดูท่าทางมีความสุข

มีความสุขกันทั่วทุกคน

แข็งแรงๆนะแม่...

พ่อก็แข็งแรงนะคับ..

สดชื่นดีจังนะค่ะคุณตา..

คำอวยพรจากพ่อและจากแม่ ขอให้ลูกหลานทุกคนแข็งแรง มีความสุข อย่าได้เจ็บได้ไข้ อย่าได้มีโรคภัย มีเงินมีทองใช้ตลอดปี ขอให้โชคดีทั่วกันทุกคน เป็นพรที่ลูกหลานชื่นชอบกันค่ะ โดยเฉพาะเรื่องมีเงินใช้ตลอดปีนี่แหล่ะสำคัญ หลังจากได้รับพรแล้วก็พากันไปกินขนมจีนน้ำยา จากร้านในหมู่บ้านไม่รู้ว่าจะถูกปากหรือเปล่า แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรได้รองท้องก่อน พี่ชายก็เข้าครัวจัดการกับไก่ของพ่อหนึ่งตัว ต้มน้ำปลา ก็อร่อยดีค่ะ สนุกสนานตามประสาคนบ้านเฮา....หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำภาระกิจของครอบครัว...เป็นอันจบพิธี..
.....................................................................................

มาถึงวันที่ 16 เมษายน 2554
วันนี้ต้องไปแก้บนที่โรงพยาบาลสระแก้ว บนไว้ตั้งแต่แม่ป่วยแล้วขอให้แม่แข็งแรง ปลอดภัย และตอนนี้แม่ก็แข็งแรงมาก ดีขึ้นมาก เหลืออย่างเดียวคือ พูดยังไม่มีเสียงออกมา หมอบอกต้องใช้เวลา ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่เหมือนกัน ก็ต้อง สู้ๆนะค่ะแม่..ตื่นแต่เช้าค่ะ เตรียมหัวหมูไว้ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแล้ว นึ่งเรียบร้อย มีพวงมาลัยดอกมะลิด้วย พร้อมออกเดินทาง ไปถึงก็ทำพิธีเตรียมถาด เตรียมโต๊ะวางหัวหมูมาด้วยค่ะ แล้วก็จุดธูป อธิฐานทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ขอท่านไว้นำมาถวายแล้ว อธิฐานบอกกล่าวแล้วก็รอจนธูปหมดก็เก็บสำรับจะกลับบ้าน....กำลังเดินทางกลับแล้ว..ไอ้ตัวเล็กสองคนบนว่าไม่เห็นพาไปเที่ยวไหนเลย..ก็ไม่รู้จะไปไหน เอ๊ะ..เห็นป้ายพอดี ทางไปน้ำตกปางสีดา ก็เลยเลี้ยวควับเลย สรุปพาไปเที่ยวปางสีดากัน ระยะทางไม่ไกลจากตัวเมื่องสระแก้วเท่าไร..ไปถึงบรรยากาศตอนเข้าอุทยานเย็นดีเหมือนกันค่ะ เพราะช่วงทางเข้าก่อนถึงอุทยานร้อนม๊ากๆๆ ต้องไปทำเรื่องที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว แจ้งจำนวนคนที่จะขึ้นไปบนอุทยาน ตอนเข้าเริ่มมีผีเสื้อบนรอบๆ เยอะเหมือนกัน ..

ผีเสื้อตัวน้อยๆ ของปางสีดา

ถามศูนย์นักท่องเที่ยวว่าอุทยานมีที่ไหนเที่ยวได้บ้าง พี่ๆเค้าบอกว่ามีลานผีเสื้อ และก็จุดชมวิวซึ่งต้องเดินทางไปขึ้นไปบนเขาเป็นระยะทางอีก 25 กิโลเมตร นึกตอนแรก โฮ้! ทำไมมันไกลจัง เอาไงดีเนี่ย แต่ไหนๆก็มาแล้ว ถามแม่ว่าไปไหม แกบอกว่าตามใจ งั้นลุย!! ขับรถไปเรื่อยๆ สักระยะหนึ่งทางลาดยางที่มีอยู่เริ่มหมดแล้ว เป็นทางลูกรังแดงแต่ถนนก็ใช้ได้ คิดดูเองนะค่ะ ระยะทาง 25 กิโลเมตร ว่านานเท่าไหร่ ก็นะ..สองข้างทางป่าค่ะป่า ตื่นเต้นๆ มองไปบนพื้นถนนข้างหน้า ขี้ช้างเต็มไปหมดเลยค่ะ แถมป่าข้างทางมีร่องรอยการกัดกินและก็คงเป็นทางเดินของท่านช้างไปในตัว ภายในใจนะเริ่มรู้สึกว่า จะถึงจุดชมวิวไหมเนี่ย มีรถคันเดียวที่วิ่ง พอไปได้สักครึ่งทาง เริ่มเห็นรถสวนลงมา พออุ่นใจขึ้นมาหน่อย ไปอีกสักระยะก็มีบ้านพักบนเขา สำหรับคนไปกางเต็นท์นอนดูสัตว์และส่องสัตว์ตอนกลางคืน และแล้วในที่สุดก็มาถึงค่ะ จุดชมวิว บนยอดเขาในอุทยานปางสีดา

วิวสวยๆ ของจุดชมวิว

วิวภูเขา..ไกลสุดลูกตา

วิวสวย กะคู่พี่น้องสุดแสบ

บรรยากาศรอบๆจุดชมวิว


รั้วรอบบริเวณจุดชมวิว

ผืนป่า..ปางสีดา

ได้รับบรรยากาศบนยอดเขาพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็ถึงเวลากลับค่ะ ตอนนี้เริ่มหิว ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยง หิวจังๆ ตอนลงมาเร็วกว่าตอนขึ้นอีก ได้มานั่งกินข้าวหน้าปากทางเข้าอุทยานปางสีดาค่ะ กินเสร็จแล้วก็รีบกลับบ้าน เดี๋ยวถึงบ้านเย็นมากไม่ดีค่ะ วันนี้ไว้แค่นี้ก่อนนะค่ะ เอาไว้มีอะไรเพิ่มจะมาอัพลงเรื่อยๆค่ะ