วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ปลูกหน่อไม้น้ำ..ขายได้ราคาสูง!!

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆที่ติดตาม บล็อก Poo nita Farm วันนี้นำเรื่องหน่อไม้น้ำมาฝากกันค่ะ เป็นผักที่น่าปลูกมากๆเลยนะค่ะ มาติดตามกันเลยค่ะ
ชื่อ หนอไม้น้ำ หรือเรียกว่า กะเป็ก
หน่อไม้น้ำหรือกะเป็กเป็นพืชที่ใช้เป็นอาหารได้อย่างดี ปลูกกันมากในจังหวัดภูเก็ต เล่ากันว่าชาวจีนจากแผ่นดินใหญ่นำมาปลูกเมื่อ 60 ปีแล้ว ผู้ขยายพันธ์ คนแรกเป็นชาวภูเก็ตชื่อ นายหมิ่นจอก เอกวานิช กะเป็กจะมีลักษณะคล้ายต้นข้าว แต่ใบโตกว่า ลำต้นของกะเป็กมีลักษณะเป็นหัวสีขาวยาวประมาณ 15-16 เซนติเมตร อยู่ในน้ำ นอกนั้นเป็นแผ่นทั้งต้นตัวผู้และต้นต้นตัวเมีย ตัวผู้จะมีดอกสีขาวเหมือนดอกข้าว ตัวเมียไม่มีดอกแต่จะออกเป็นผักเก็บรับประทานได้ ใบของกะเป็กจะคมและคายมากกว่าต้นข้าว 
ลักษณะพันธุ์ของ“หน่อไม้น้ำ”แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1. พันธุ์หัวเขียว ซึ่งจะมีหัวเป็นสีเขียวจัด ส่วนมากจะโป่งเป็นหัวอยู่ตามข้างๆลำต้นและเกิดอยู่บริเวณผิวน้ำ ทำให้ได้รับแสงจึงเกิดคลอโรฟีล ทำให้เป็นสีเขียว พันธุ์นี้ไม่เป็นที่นิยมของตลาด จึงไม่ค่อยพบเห็นกันบ่อยนัก
2. พันธุ์หัวขาว เป็นพันธ์ที่มีลำต้นโป่งออกเป็นหัว เมื่อแกะกาบชั้นนอกออกแล้วจะมีสีขาวบริสุทธิ์ และมักจะเกิดหัวตรงโคน
ของลำต้นและเกิดอยู่ใต้ผิวน้ำ เนื้อเยื่อไม่เหนียวและกรอบ แต่ถ้าปล่อยให้หัวแก่เกินไปก็จะแข็ง พันธ์นี้เป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมากและสามารถจำหน่ายได้ราคาดีอีกด้วย
วิธีการปลูก
การปลูกหน่อไม้น้ำจะสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปีถ้าพื้นที่ปลูกมีน้ำ  ซึ่งนอกจากจะปลูกในนาข้าว ร่องน้ำ ร่องสวนแล้ว คนที่ไม่มีพื้นที่ก็สามารถปลูกในกระถางหรือภาชนะที่มีน้ำขังก็
ได้  แต่ต้องขยันตัดสางหรือตัดแต่งกอและแยกหน่อออกไปปลูกบ่อยหน่อย  เพราะถ้ากอแน่นมาก หน่อไม้น้ำจะให้หน่อน้อยหรือไม่มีหน่อ เดือนพฤษภาคมดูจะเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการปลูกเนื่องจากเป็นช่วงต้นฝนน้ำอุดมสมบูรณ์ การปลูกหน่อไม้น้ำเชิงการค้าเพื่อขายหน่อนั้นจะปลูกในพื้นที่นาซึ่ง

วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ปลูกมะระช่วงแล้ง แค่ 10 ไร่ ก็ฟันเงินล้านได้

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ บล็อก Poo nita farm วันนี้จะนำเรื่องการปลูกมะระช่วงหน้าแล้ง แล้วสามารถทำเงินได้ดีมากๆ มาฝากกันค่ะ ถ้าเพื่อนๆ อยากลองทำดูก็มาติดตามกันนะค่ะ

จังหวัดสุพรรณบุรีนับเป็นแหล่งปลูกผักที่ใหญ่มากของบ้านเราค่ะ ผักที่ปลูกก็ค่อนข้างจะหลากหลาย แต่ที่นิยมปลูกกันมากก็คือ มะระ คะน้า มะเขือเทศ ถั่วฝักยาว ขึ้นช่าย มันเทศ เป็นต้นค่ะ และชาวสาวจะเป็นผู้วางแผนในการปลูกเพื่อให้ได้จังหวะเวลาที่ได้ผลตอบแทนมากที่สุด สวนใหญ่พืชผักมักจะมีราคาแพงช่วงที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ทำยาก เสี่ยงสูง หากคิดจะเสี่ยงก็ต้องเตรียมรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้อย่างดี หากสามารถฟันฝ่าอุปสรรคไปได้ก็เรียกว่าเกินคุ้มค่ะ
พืชที่กล่าวได้ว่าเป็นที่นิยมปลูกกันมากในช่วงหน้าแล้งคือ "มะระ" เพราะถือว่าเป็นจังหวะที่มะระมักมีราคาแพง แต่ก็เป็นช่วงที่ทำยาก เพราะสารพัดปัญหารุ้มเร้า ทั้งมะระไม่โต ไม่ติดผล ผลไม่ดก เพลี้ยไฟเข้าทำลาย ต้นเหลือง แต่คุณ สมชาติ เชื้อฉ่ำหลวง ก็ยอมที่จะเสี่ยง และสามารถที่จะทำสำเร็จมาได้ทุกปี และปีนี้ก็เช่นกัน และราคาก็พุ่งกระฉูดเลยทีเดียว ซึ่งถ้ามีมะระแค่ 10 ไร่ ก็สามารถที่จะสร้างได้ไม่ต่ำกว่าล้านอย่างแน่นอน
เทคนิคการทำให้มะระติดดกในช่วงแล้ง
สำหรับการเลือกมะระของสวนคือ พันธุ์เขียวหยก เบอร์ 16 ของศรแดง ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ตลาดชอบ เพราะสีสวย ทรงผลสวย ให้ผลผลิตดี มะระในช่วงนี้จะเลือกทำค้าง แบบกระโจม เพราะทำง่าย ลงทุนต่ำ การดูแลง่าย ฉีดพ่นสารเคมีง่าย ค้างแบบนี้จะโปร่ง โอกาสที่มะระจะเสียหายน้อยกว่า แต่ถ้าเป็นค้างแบบสี่่เหลี่ยมหรือแบบกล่อง แม้จะได้ผลผลิตยอะกว่าค้างแบบกระโจมเท่าตัว แต่ก็ลงทุนเยอะ ดูแลยาก ฉีดพ่นเคมียาก ค้างแบบกล่องจะทึบ โอกาสที่มะระจะเสียหายสูง การทำค้างแบบกระโจมพื้นที่ 10 ไร่ ลงทุนประมาณ 1.5 แสน