วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

การเพาะจันทร์ผา หรือ จันทร์แดง ไม้ประดับราคาสูง

จันทร์ผา (Dracaena)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dracaena lourieri
ตระกูล            :  AGAVACEAE
การดูแลรักษา
แสง    :  ชอบแสงแดดมาก
น้ำ      : ให้น้ำพอประมาณและสามารถทนการขาดน้ำได้เป็นเวลานาน ๆ
ดิน      : สามารถเจริญเติบโตได้ในดินแทบทุกชนิด
ปุ๋ย      : ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักให้ปีละ 2 ครั้ง
โรคและแมลง  :  ทนทานต่อการทำลายของโรคและแมลงได้เป็นอย่างดี
จันทร์ผา : เป็นไม้ป่าประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ จันทร์ผามีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่ง จันทร์แดง หรือ ลักจั่น จันทร์ผาจัดเป็นไม้ยืนต้น มีความสูงประมาณ 5-7 ฟุต ลำต้นแกร่ง เปลือกนอกลำต้นมีลักษณะเกลี้ยงเป็นสีเทานวล ลักษณะลำต้นตั้งตรงเป็นลำคล้ายหมาก ใบของจันทร์ผาจะแตกใบเป็ช่อเฉพาะส่วนยอด แต่อาจจะมีการแตกแขนงออกจากลำต้นใหญ่ได้อีก ลักษณะใบของจันทร์ผาจะมีลักษณะใบเรียวยาว ใบจันทร์ผาจะสีเขียวเข้มปลายใบจะแหลมเป็นรูปหอก ริมใบเรียบเกลี้ยง ส่วนก้านใบจะมีลักษณะเป็นกาบหุ้มซ้อนทับอยู่รอบ ๆ ต้นขนาดของใบจะยาวประมาณ 1.5-2 ฟุต มีความกว้างของใบราว 4-5 เซนติเมตร ดอกของจันทร์ผาจะออกดอกเป็นพวง โดยแตกออกจากโคนก้านใบคล้ายกับจั่นหมากด้วยเหตุนี้เอง จันทร์ผา
 จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ลักจั่น หมายถึงต้นไม้ ที่ไม่ใช้ต้นหมากหรือมะพร้าวแต่สามารถออกดอกเป็นจั่นได้อย่างจั่นหมาก หรือจั่นมะพร้าว เข้าทำนองว่าคล้ายกับการไปลักจั่นหมากหรือจั่นมะพร้าวมาออกที่ต้นของมันได้นั่นเอง
     จั่นดอกของจันทร์ผาพวงหนึ่ง ๆ จะมีดอกเล็ก ๆ มากมายหลายพันดอกในแต่ดอกจะมีกลีบสีขาวเล็ก ๆ จำนวน 6 กลีบที่บริเวณกลางดอกจะเป็นจุดสีแดงสด เมื่อดอกบานเต็มที่มีความกว้างดอกประมาณ 0.8 เซนติเมตร ในจั่นดอกจั่นหนึ่ง ๆ จะใช้เวลาการบานดอกนานประมาณ 10-15 วัน
จั่นดอกของจันทร์ผา แต่ละจั่นจะห้อยเป็นพวงระย้ายาว เมื่อดอกแก่และมีการผสมติดก็จะเกิดเป็นผลมีลักษณะเป็นผลกลมเล็ก ๆ ขนาดเท่ากับขนาดของผลมะแว้งผลเมื่อยังอ่อนอยู่จะมีผลเป็นสีเขียว แต่เมื่อผลแก่สุกก็จะกลายเป็นสีแดงสดและจะกลายเป็นสีดำคล้ำ
      ในช่วงที่ผลจันทร์ผาเป็นสีดำคล้ำหรือแก่จัดนี้เองเป็นช่วงที่สามารถนำไปเพาะเพื่อขยายพันธุ์ ได้ในการขยายพันธุ์จันทร์ผาจะใช้วิธีปักชำก็ได้ เช่น หรือจะใช้วิธีหักต้นไปปักให้ขึ้นเป็นต้นใหม่ได้

          จันทร์ผาจัดเป็นไม้กลางแจ้งที่ปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมสูง เนื่องจากวงการไม้ประดับนิยมจะนำจันทร์ผาไปแต่งสวนหย่อมกันมากนั่นเอง
          ในการปลูกจันทร์ผา ควรปลูกในดินทีผสมด้วยหินหรือลูกรังให้มาก ดังนั้นในหลุมที่ขุดเตรียมไว้เพื่อปลูกจันทร์ผา จึงควรมีการผสมดินปลูกใหม่ให้เหมาะสม ดังกล่าวเพราะถ้าหากปลูกจันทร์ผาโดยวิธีการปลูกลงในดินล้วน ๆ แล้ว ยอดของจันทน์ผาที่เกิดใหม่จะลีบเล็กลงทั้งนี้เพราะจันทร์ผาเป็นไม้ที่มีรากแข็งแรงและ ชอบฝังรากลึก ทนต่อความแห้งแล้งได้ดี ดังนั้น การปลูกจันทร์ผาโดยใช้ส่วนผสมที่มีหินหรือลูกรัง จะช่วยรากของจันทร์ผาแข็งแรงและทนแล้งได้ดี ดังนั้น หากปลูกจันทร์ผาในดินล้วน ๆ รากของจันทร์ผาจะไม่แข็งแรง และมีผลทำให้ยอดลีบเล็กลงได้
    จากเหตุผลดังกล่าวมานี้เอง เราจึงมักจะพบเห็นจันทร์ผาในธรรมชาติขึ้นอยู่ตามภูเขาสูง ๆ หรือตามเกาะแก่งกลางทะเลที่ห่างไกลจากฝั่ง
     การขยายพันธุ์จันทร์ผา ในสมัยก่อนนิยมใช้วิธีการปักชำโดยการตัดหน่อหรือกิ่งของจันทร์ผาจากต้นเดิมแล้วนำมาปักชำ ในกะบะเพาะชำ หรือจะใช้วิธีการหักต้นจันทร์ผาไปเพาะชำ หรือปักลงในแปลงปลูกโดยตรง จันทร์ผาก็สามารถจะเจริญเติบโตเป็นต้นใหม่ได้ แต่ในปัจจุบันเกษตรกรผู้ปลูกเลี้ยง ต้องประสบปัญหาในการหาต้นพันธุ์จันทร์ผา ทั้งนี้อันเนื่องมาจากจันทร์ผาที่เกิดในธรรมชาติมักจะเกิดขึ้นในแหล่งที่เป็นป่าอนุรักษ์หรือ ในที่วนอุทยาน อุทยานแห่งชาติ ฯลฯ จึงทำให้ต้นพันธุ์จันทร์ผา เริ่มที่จะหายากขึ้น จึงได้มีการคิดค้น การเพาะขยายพันธุ์ต้นจันทร์ผาจากเมล็ดโดยศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์พืชสวนในจังหวัดเลย
 ศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์พืชสวนจังหวัดเลย จึงได้ทำการทดลอง เพื่อ นำเมล็ดพันธุ์จันทร์ผามาเพาะขยายพันธุ์และปรากฎผลว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใน นอกจากนี้การนำเมล็ดพันธุ์จันทร์ผามาเพาะเลี้ยง ยังเป็นการช่วยลดการทำลายธรรมชาติลดการทำลายสภาพป่าได้อีกวิธีหนึ่งด้วยนะคะ เทคนิคและขั้นตอนในการขยายพันธุ์จันทร์ผาจากเมล็ด ของศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์พืชสวนเลย จังหวัดเลยมีดังต่อไปนี้ เมื่อต้นจันทร์ผาออกดอกในราวเดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ แล้วดอกของจันทร์ผาได้รับการผสมประมาณเดือนเมษายน ดอกนั้นก็จะติดเมล็ดและเมื่อเมล็ดสุกก็พร้อมจะนำมาใช้ในการเพาะขยายพันธุ์ต่อไป
 หลังจากเก็บเมล็ดพันธุ์จันทร์ผาสุกแล้วให้นำเมล็ด จันทน์ผาที่สุก มาล้างทำความสะอาด แล้วนำไปเพาะในวัสดุเพาะชำ ซึ่งจะจัดทำเป็นแปลงขนาดพอเหมาะกับจำนวนเมล็ดพันธุ์ที่เรามีโดยใช้วัสดุเพาะสำคัญ ที่มีส่วนผสม คือ ทราย:แกลบดำ = 1:1 แล้วนำเมล็ดพันธุ์จันทร์ผามาหว่าน จากนั้นกลบเมล็ดจันทน์ผา ด้วยวัสดุเพาะชำเล็กน้อยพอมิดเมล็ดแล้วรดน้ำ ให้หมั่นรดน้ำ นานประมาณเดือนเศษ เมล็ดจันทร์ผาก็จะแตกให้ต้นใหม่ พอต้นจันทร์ผาขึ้นสูงประมาณ 3-4 นิ้ว ก็แสดงว่าต้นจันทร์ผาที่ได้พร้อมที่จะให้เกษตรกรนำไปแยกปลูกในแปลงที่เตรียม ไว้ต่อไป

    ในแปลงปลูก ก็จะเตรียมดินธรรมดา แล้ววางระยะปลูกให้ต้นห่างกันประมาณ 50 เซนติเมตร หลังจากนี้ก็หมั่นดูแล รดน้ำจนกระทั่งต้นสูงประมาณ 12 นิ้ว ก็พร้อมสำหรับการที่จะนำออกจำหน่ายได้ โดยอาจจะแยกลงในถุงหรือในกระถางก็ได้
          เนื่องจาก จันทร์ผาจัดเป็นไม้ประดับที่หายาก และเป็นพืชที่ทางราชการหวงห้ามอยู่ด้วย ประกอบกับความต้องการของตลาดก็มีสูงมาก ราคาจึงดีหรือสูงกว่าไม้ประดับโดยทั่วไป ดังนั้น จึงน่าจัดเป็นไม้ประดับอีกชนิดหนึ่ง ที่น่าสนใจและน่านำมาทำเป็นอาชีพเสริมได้ เพราะนอกจากจะให้ราคาดีแก่เกษตรกรผู้ปลูกแล้ว ยังเป็นช่วยลดการทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

                         
                              การปลูกประดับในลักษณะต่างๆขอจันทร์ผา






ขอขอบคุณ : แหล่งที่มา จากสถานีวิทยุ ม.อ.FM 88 MHz
ภาพประกอบ : จากอินเตอร์เน็ต

8 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากนะคะ สำหรับข้อมูล ดีมากๆเลยค่ะ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณมากนะคะ สำหรับข้อมูล ดีมากๆเลยค่ะ

    ตอบลบ
  3. เมล็ดเริ่มเก็บได้ตอนไหนคับ

    ตอบลบ
  4. ขอยคุณมากคร้า ที่บ้านเพื่อนให้มาตอนซื้อบ้านใหม่ ห้าปีผ่านไปโตสูงพ้นหบังคาบ้านแถมแคกหน่อแตกยอดวุ่นวายไปหมด เลยหาข้อมูลเพื่อตะตัดกิ่งชำใหม่

    ตอบลบ
  5. ที่บ้านตัดจันผามาปักลงกระถาง24นิ้วโดยใส่ดินปุ๋ยสีดา 1 ถุง ทำไมมีเหมือนเพลียขาวๆเกาะลำต้นแล้วจะทำอย่างไรดี ลงปลูกมา 15 วันแล้ว และเมื่อไหร่จะมีราก ใครรู้ช่วยตอบที

    ตอบลบ
  6. ดีค่ะ กำลังรอเมล็กแก่แล้วเพาะแจกค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

    ตอบลบ
  7. หาวิธี ขยายพันธุ์อยู่พอดี ขอบคุณมากครับ

    ตอบลบ